ความแตกต่างย่อมดึงดูดกันเสมอ นั่นเองจึงเป็นที่มาของเสื้อผ้าและเครื่องประดับในสไตล์ของเวอร์ซาเช่ในคอลเลกชั่นนี้ อย่าง คอลเลกชั่นสุภาพสตรี ได้นำการผสมผสานสัดส่วนและความแตกต่างเข้าด้วยกัน โดยแฝงไว้ด้วยความสนุกสนานและขี้เล่น ไม่ว่าจะเป็น ยาว - สั้น, สูง - ต่ำ, เรียบ - มีลวดลาย, สว่าง - มืด และเนื้อผ้า - เนื้อจริง
กระโปรงเอวสูงเหนือเข่าถูกนำมาผสมผสานกับแจ็คเก็ตตัวสั้นพิเศษที่คลุมลงมาถึงบริเวณช่วงใต้อกเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้คือลุคที่เผยให้เห็นถึงผิวของผู้สวมใส่ที่ปรากฏอยู่ระหว่างกระโปรงและแจ็กเก็ต นอกจากนี้ ยังเน้นที่บริเวณช่วงไหล่ให้ดูกลมมนเพื่อความสดใหม่ แน่นอนว่าไฮไลท์ที่สำคัญอยู่ที่บริเวณช่วงไหล่ที่ดูโดดเด่นกว่าเคย โดยช่วงไหล่ของเสื้อผ้าหลายชิ้นจะถูกเผยและเน้นให้เด่นด้วยการล้อมกรอบเพื่อให้ได้สถานะใหม่ในฐานะจุดเซ็กซี่ใหม่ล่าสุดบนร่างกาย
เทคนิคที่ใช้คือการนำสายคาดสีดำ (ลักษณะคล้ายบังเหียนม้า) มาใช้ในการตกแต่ง และจะปรากฏอยู่ทั่วทั้งคอลเล็กชั่น สายคาดเหล่านี้จะประดับด้วยกระดุม และจะถูกนำมาคาด ตกแต่ง และล้อมรอบช่วงไหล่ของเดรสและเสื้อที่ถูกเสริม ผลลัพธ์ที่ได้คือช่วยลดขอบเขตของช่วงหลังที่เปลือยเปล่า และเป็นการอ้างอิงถึงความเซ็กซี่ของสายคาดแบบอีโรติกได้อย่างนุ่มนวลและสง่างาม
ในขณะที่ลายพิมพ์พื้นฐานคือลาย Versace Greek fret motif ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของห้องเสื้อ แต่มิได้ปรากฏในฐานะโลโก้ แต่เป็นลวดลายในการใช้ประดับตกแต่ง การใช้ลายกราฟิกอย่างเป็นอิสระและง่ายดาย ซึ่งแตกต่างจากการใช้ทั่วไปที่มักเน้นที่ลายเรขาคณิตอันเข้มงวด ช่วยให้ได้อารมณ์อันลื่นไหลของลายพิมพ์ รวมถึงการเลือกใช้สีของลวดลายอย่างสนุกสนานด้วย
ส่วนเครื่องประดับยังคงอยู่ในแนวคิดการตัดกัน ด้วยกระเป๋าแบบต่างๆ (มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง) ถูกทำขึ้นจากวัสดุที่แตกต่างกัน การบุด้านในและการตกแต่งเน้นสีสันสดใส ในขณะที่วัสดุหลักมีสีมืดดำ นอกจากนี้ ยังมีกระเป๋าขนาดเล็กที่รับการออกแบบให้ใช้สะพายไหล่ ปรากฏลาย Greek fret motif ในการตกแต่ง ไม่ใช่การนำเสนอโลโก้แต่อย่างใด กระเป๋าบางใบทำจากตาข่ายโลหะ ตกแต่งด้วยคริสตัลจากสวารอฟสกี้เพื่อเน้นถึงการละเล่นของแสงเงา และในคอลเลกชั่นนี้ รองเท้าส้นตึกได้หายไป โดยมีรองเท้าส้นเข็มสูง 12 ซม.มาแทนที่ รูปทรงเน้นความโค้งมน และสูงขึ้นมาถึงบริเวณข้อเท้า การตกแต่งยังคงเน้นที่สายคาดที่สอดคล้องไปกับคอนเซ็ปต์ของเสื้อผ้า
และความหล่อของสุภาพบุรุษ ได้ย้อนกลับไปยังผลงานดีไซน์ของเวอร์ซาเช่ภาพแห่งตำนานจากงานถ่ายภาพของบรูซ เว็บเบอร์ (Bruce Weber) สำหรับห้องเสื้อของเราเมื่อปลายทศวรรษที่ 80s เสื้อสูทถือเป็นโครงสร้างที่สำคัญของคอลเล็กชั่นนี้ เด่นด้วยเสื้อแจ็กเก็ตแบบเข้ารูป แขนเสื้อที่สั้นกว่าเดิมเล็กน้อย และกางเกงขาลีบที่พับชายขึ้นมายังบริเวณข้อเท้า
เสื้อแจ็กเก็ตหนังชวนให้นึกถึงความเซ็กซี่ของสไตล์ rockabilly ในยุค 80s อิทธิพลที่เห็นได้ชัดของสไตล์นี้ ได้แก่ พู่ที่ทำจากหนัง และหมุดขนาดเล็ก คอนเซ็ปต์เดียวกันนี้ยังปรากฏบนเข็มขัด ที่เด่นที่หัวประดับเพชรและอัญมณี วัสดุพิเศษ ได้แก่ คอตตอน วูลเนื้อเบา พร้อมไมโคร-ดีไซน์ และลวดลายอ็อพติคัลอันสลับซับซ้อน ลายพิมพ์อ็อพติคัล ที่เป็นการเห็นผ่านทางกล้องคาเลโดสโคป ดูมีขนาดใหญ่ขึ้นและหดเล็กลง สีสันเป็นการปะทะของโทนสีที่มีสีดำเป็นหลัก อาทิ ขาวและดำ เทาและดำ แดงและดำ แอคควาและดำ ฟ้าและดำ ชมพูและดำ
ปิดท้ายที่รองเท้าดูหรูหรา และถือเป็นเครื่องประดับจำเป็นสำหรับลุคในคอลเล็กชั่นนี้ ไฮไลต์อยู่ที่การประดับด้วยซิป ตัวล็อก ตัวล็อกรูปเมดูซ่า และหมุดขนาดเล็ก
ขอบคุณหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก